Monday, January 13, 2014

Tokyo...A Pleasant City



Japan is one of my dream destination as well as my husband. This trip to Japan was very last minute. I had couple of days to plan the itinerary. Due to we had only 5 days for traveling, thus we decided to focus in Tokyo only.
However, the most important thing in Tokyo is "Metro" which is well-known of the complexity and very on time, that's why we have to carefully plan. Anyway...no worry, just book the flight and experience :)
Alright...here we go !!!


ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศในฝันของอิชั้นและคุณสามี ทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นทริปด่วน ซึ่งมีเวลาวางแผนการเดินทางน้อยมาก เนื่องจากเรามีเวลาในการเที่ยวเพียงแค่ห้าวัน เราจึงตกลงกันว่า เอาเฉพาะใน"โตเกียว" เลยดีกว่า ที่สำคัญเรื่องการเดินทาง ความซับซ้อนซ่อนเงื่อน ว้าวุ่น วุ่นวาย ของรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นที่กล่าวขานร่ำลือกันว่า ทั้งยาก ทั้งงง ก่งก๊ง บวกกับภาษาญี่ปุ่นที่เก่งขั้นเทพถึงกับสื่อสารกับใครหน้าไหนไม่ได้กันเลยทีเดียว จึงต้องวางแผนกันให้รอบคอบนิสสสนุง (แบบเปิดไฮเปอร์เดีย วางตาราง เวลาเดิน เวลากิน กันให้เป๊ะไปเลย...ดูซิจะหลงมะ!)
เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน อย่าได้แคร์ จองตั๋วแล้วไปลองดูซักตั้ง ไปกันเล้ยยยย!!!!

Money is ready, Camera is ready and WE ARE READY !!
เงินพร้อม...กล้องพร้อม...ใจก็พร้อม !!!!

Above the sky...
ท้องฟ้าญี่ปุ่น กะ บ้านเรา สวยเหมือนกันเนอะ^^



Finally we arrived Tokyo safely!! @ Narita International Airport.
Our first Japanese metro begun here...
และแล้ว เราก็ถึงโตเกียวอย่างปลอดภัยจ้าาา เครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาตินาริตะ
และเราก็เริ่มการผจญภัยบนรถไฟเข้าเมืองกัน ณ บัดนาว...





Our hotel was nearby Tokyo Sky tree station, just few minutes walk, we promptly left our belongings and explored Tokyo.
I snapped some beautiful shots of Tokyo Sky tree and upper the metro has a shopping mall located. There're many shops and restaurants. Let see inside...
โรงแรมที่เราจองอยู่ใกล้กับสถานีโตเกียวสกายทรี เดินแค่ไม่กี่นาทีเองด้วย เราไม่คิดอะไรเลย นอกจากวางกระเป๋าไว้ที่พักและรีบออกมาสูดอากาศ เดินชมเมืองกัน ที่สถานีนี้ยังมีร้านค้าขายของน่ารักๆ และร้านอาหารเพียบ
ไปดูบรรยากาศกันเลยดีกว่า...

@ Tokyo Sky tree

Sweet Shop in shopping mall
ร้านขายขนมน่ารักๆ ในห้าง

Cute dolls and Toys are also available
ตุ๊กตาและของเล่นน่ารักๆก็มีขายนะจ้ะ

Colorful Restaurant
ร้านตกแต่งด้วยโคมไฟสีสันสดใส น่ารักเชียว


This restaurant was very crowded and we guess it must be delicious and famous!!
It was long que both eat in and take away, it's "GIGANTIC GYOZA"
ร้านนี้คนเยอะมาก และจากทฤษฎีมันก็คงต้องอร่อยและฮิตติดลมบนแน่ๆ
คิวยาวทั้งกินในร้านและซื้อกลับเลย มันคือ "เกี๊ยวซ่ายักษ์"  นั่นเอง







Before go back to rest...we found a franchise restaurant which you probably see at every blog.
We had supper here at Yoshinoya...good taste at good price.
ก่อนกลับไปพักผ่อนเตรียมแรงสำหรับผจญภัยวันพรุ่งนี้ เราเจอร้านแฟรนไชส์ที่เห็นเยอะมากแทบทุกมุมถนน
เลยตัดสินใจกินซะที่นี่เลยจ้าาา ร้านโยชิโนย่า...อิ่มหนำสำราญ อาหย่อย แถม สบายเป๋าด้วยนะเออ^^

Beef Teriyaki served with Kimchi, Miso soup and rice.
เนื้อเทอริยากิ เสิร์ฟพร้อมกิมจิ (ตกลงนี่ญี่ปุ่นหรือเกาหลี มีกิมจิด้วย??) ซุปมิโซะและข้าว


Waking up early in the morning with beautiful Japanese garden view, cool wind blowing and super fresh air....how wonderful it was! The temperature was 20ํC. Green leaves turned to brown and dropped as a sign of the beginning of Autumn. My husband was totally in love with traditional Japanese home decoration and especially the rock garden! He immediately rushed to sit and walked in the garden after woke up.
ตื่นแต่เช้าตรู่ ในบรรยากาศสวนหินสไตล์ญี่ปุ่น ลมเย็นๆพัดเอื่อยๆ สูดอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น ช่างเป็นช่วงเวลาที่ฟินฝุดๆจริงๆ อุณหภูมิประมาณยี่สิบองศากำลังเย็นสบาย ใบไม้สีเขียวเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล ร่วงหล่นเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง คุณสามีของเดี๊ยนตกหลุมรักทั้งการตกแต่งบ้านและสวนหินสไตล์ญี่ปุ่นเข้าอย่างจัง ตื่นมาก็รีบลุกมานั่งชมสวน เดินเล่นซะเพลินเลย








Asakusa

Time to explore Tokyo !!! Started from Asakusa area^^
This red bridge names "Azumabashi" or "Sumida River Bridge", Sumida river flows through Tokyo and you can take the ferry along Sumida river for sightseeing.
ได้เวลาตะลุยโตเกียวกันแล้วจ้าาาาา...หลังจากเก็บแรงเต็มที่ มาเริ่มกันที่ย่านอาซากุสะกันก่อนดีกว่า
สะพานสีแดงนี้ เค้ามีชื่อเรียกนะจ้ะ ชื่อว่า "อะสุมะบาชิ"  หรือ "สะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะ"  ซึ่งแม่น้ำสุมิดะนี้ไหลผ่านเมืองโตเกียว นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมทัศนียภาพกันเพลินๆได้ด้วย

 





Asahi Breweries Building

Another highlighted landmark at Azumabashi bridge is "Asahi Breweries Building" . An outstanding sculpture of the building is easily noticeable, it represents Asahi's identity which is the "Golden Beer Foam". People may have different ideas of it, some may imagine as a tadpole or even sperm!!
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่เป็นไฮไลท์ของสะพานแดง ก็คือ ตึกอาซาฮีนี่เอง สังเกตง่ายๆ คือ รูปปั้นทรงสะดุดตาสีทอง ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของอาซาฮี หรือเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ไปเลยก็ว่าได้ มันคือ รูปฟองเบียร์สีทองนี่เอง 
เอ๊ะๆๆ...อย่าคิดเตลิดไปไหนไกล เดี๊ยนรู้นะฮะ...ว่าจินตนาการ มโน เพ้อ คิดไปถึงไหน บ้างว่าลูกอ๊อด บางคนมองเป็นก้อนขี้บ้างแหละ ที่หนักสุดนี่คือ มโนว่าเป็นอสุจิรินี กันเลยทีเดียว เอาเป็นว่า..เค้าบอกว่าฟองเบียร์ ก็ฟองเบียร์นะจ้ะ อย่าคิดไกล

Amazing view of Sumida river&bridge, Asahi Building and Tokyo Sky tree.
วิวงามงด ชดช้อย อลัง วังเวง ลงตัวทุกสิ่งทั้งแม่น้ำเอย สะพานเอย อสุจิเอ๊ย ตึกอาซาฮี 
แถมด้วย โตเกียวสกายทรี ฟินอ่าาาา




Sensoji temple

The most magnificent and oldest temple in Tokyo. Approximately 250 meters along the street to the temple are full of hundreds souvenir shops and the tradition before get into the temple to pay the respect is to firstly wash your hands and mouth in order to clean your hands and mouth when you pray. Then light the incense and blow the smoke to yourself means bringing all good things to you. The Amulets here are very famous, you can select ones that suit your wishes.
วัดเซ็นโซจิเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวและมีความสวยงามมาก ตลอดทางเข้าวัด เป็นระยะทางประมาณสองร้อยห้าสิบเมตรเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกนับร้อยร้าน และตามธรรมเนียมการสักการะของทางวัด เราต้องล้างมือ ล้างปาก เพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ รวมทั้งปากที่จะเอ่ยขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย จากนั้นก็จุดธูป และเมื่อปักธูปที่กระถางก็อย่าลืมพัดควันธูปเข้าตัว เสมือนการนำพาสิ่งดีๆเข้าตัวเอง นอกจากนี้ เครื่องรางที่นี่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถเลือกซื้อตามความปรารถนากันได้เลยจ้ะ


The food models are very appetizing.
คือ บับว่า...ของจำลองยังน่ากินขนาดนี้

Rice cracker here is very well-known and there're many favors available here.
ข้าวเกรียบที่ทำจากข้าวเป็นที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอยู่แล้ว และร้านนี้ก็มีให้เลือกหลายรสมาก...แต่ไม่เปิด คือ อดไง!!



Shopping and Sushi at "Ueno"

Ueno is the best shopping place because everything is HERE!! Whatever you want for boys or girls, you can find here. Gadget and toys for boys, cloths, cosmetics, cute accessories for girls...all you can find here. Each building sells specific goods, thus we separated and enjoy shopping!  You also can find nice restaurant like seafood, sushi, shabu, korean or casual restaurant for people to meet after work!
อุเอะโนะ เป็นแหล่งช็อปที่เวิร์คสุดๆ เพราะไม่ว่าใครจะอยากได้อะไร ที่นี่มีหมด จะของอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่นสำหรับผู้ชาย เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของจุกจิกน่ารักสำหรับสาวๆ มีหมดจ้ะ แต่ละตึกจะขายของเป็นอย่างๆไป ฉะนั้นใครจะซื้ออะไร แยกกันโลดดดด นอกจากนี้ร้านอาหารน่ากิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล ซูชิ ชาบูหรือแม้กระทั่งหมูย่างเกาหลียังมี ร้านชิลล์นั่งกินเบียร์กับแกล้มอร่อยๆก็เพียบ เดินกันขาลากเลยทีเดียวเชียว










Takoyaki is a must & recommended menu that you can't miss. Must try...you can't find any takoyaki which is absolutely tasty like the original one in JAPAN!!

สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกอย่าง คือ ทาโกะยากิ!!!  มันอร่อยล้ำแบบหาที่ไหนไม่ได้ในบู้ตึ๊ง ที่ไหนจะอร่อยเท่าของแท้ดั้งเดิม เจ้าเก่า เจ้าเดิมได้ล่ะ ชิมิ??








Shibuya

One another tourist attraction....Shibuya intersection !!!!
The crowded and busy intersection!
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยว ที่ต้องไป๊..ต้องไป เดินไปก็ป๊ะกับคนไทยเกลื่อนกลาดดาษดา นั่นคือ "ห้าแยกชิบุย่า"
แยกที่คนเยอะ วุ่นวาย สับสน ปนเป...บ้านเราแค่สี่แยกก็วุ่นและ ที่นี่ตั้งห้าแยก!!  นับถือตำรวจจราจรที่คุมสัญญาณไฟจริงๆ






To close this chapter perfectly...We took Japanese style photo sticker !
You absolutely can't find any photo sticker with round big eyes and personalize cute decoration!
เพื่อการจบตอนอย่างสมบูรณ์แบบฮาราจุกุ จะพลาดโมเมนท์โนะเนะ คิกขุ งุงิ กับการถ่ายติ๊กเก้อ ได้ไง
คือมันดีย่ะ...น่าร้อกกกก จะหาตู้สติกเกอร์ที่ไหนในโลกที่ถ่ายออกมาตากลมโตได้ที่ไหน
(แต่แอบโชว์โง่...บอกเลย  เค้าให้เลือกว่าจะเอารูปไหน ดันมโนว่าอยู่เมืองไทย ให้เลือกรูปที่จะถ่ายใหม่ ถ่ายไปหก ไม่เอาสองรูปนี้ ไม่สวย จะถ่ายใหม่ สรุปคือ ...พรึ่บ!!!! จอดำ ให้รอรับรูป แง่ว!!!! และแล้วสองรูปนี้ก็ร่วงลงมา จะถ่ายใหม่ก็หมดเวลา ห้างปิด งอน!!!จบ!!!!)




No comments:

Post a Comment